อนาคตยางพาราในประเทศไทย
อยากให้ทุกๆท่านลองมาพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ดูน้ะครับ แล้วลองคิดดูว่า อนาคตของยางพาราในประเทศไทยควรจะเป็นเช่นไร
เมื่อประมาณ ๕-๗ ปีที่ผ่านมา ได้มีการปลูกยางพาราประมาณ ๕ ล้านไร่ ในเขตทางภาคใต้ของประเทศจีน
ขณะนี้ทราบว่าได้มีการเปิดกรีดกันบ้างแล้ว
ข้อมูลเหล่านี้พี่น้องชาวสวนยางทราบกันบ้างไหม มีหน่วยงานใดบอกกล่าวท่านบ้างไหมครับ
ยางพาราที่ประเทศไทยส่งออกไปขายยังต่างประเทศนั้นกว่า ๘๐% เราส่งออกไปขายยังประเทศจีนครับ
ขณะนี้เราทำการปลูกยางพารากันมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา และพบข่าวทั่วไปว่า กล้ายางที่ปลูกกันเมื่อปีที่แล้วเป็นกล้ายางด้อยคุณภาพ
นั้นคือ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ ๗ ปี เวลาที่ท่านเปิดกรีด ท่านจะได้รับปริมาณน้ำยางน้อยกว่าการปลูกด้วยกล้ายางที่มีคุณภาพกว่า ๔๐%
นั่นคือ ท่านควรได้น้ำยางสัก ๑๐๐ กก. แต่ท่านจะได้น้ำยางเพียงประมาณ ๖๐ กก.เท่านั้น หรือ อาจจะได้น้อยกว่านี้ก็เป็นได้ แต่จะไม่ได้มากกว่า ๖ๆ กก.แน่นอนครับ
จากในอดีต เราทำการปลูกพืชแบบผสมผสาน จะกินพริก ตะไคร้ มะเขือ ผักแกล้ม ผักต้ม ผักแกง ผักจิ้ม เราเพียงเดินลงไปจากเรือนชาน เราก็จะได้แล้ว เราไม่ต้องไปซื้อหา
แต่ทุกวันนี้ แม้พริกสักเม้ด ตะไคร้สักต้น เราก้ต้องไปซื้อ
เราต้องกินทุกวัน เราต้องซื้อทุกวัน ซื้อทุกอย่าง
แต่เรามีรายได้ไม่ทุกวัน
หากเราบริหารจัดการไม่ดี เราคงต้องเป้นหนี้ไปอย่างไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอนครับ
ที่มา http://www.htyjunction.com/chai63/?p=705
ส่วนตัวคิดว่า คงไม่มีชาวสวนยางที่ไหนต้องซื้อตะไคร้กิน มีที่ปลูกยางขนาดนั่นไม่มีที่ปลูกตะไคร้กินกะเกินไปหล่ะ
ตอบลบ